การอ้างอิง: ณรงค์ ใจเที่ยง, ปฏิพัทธ์ วงค์เรือง. (2562). การพัฒนาชุมชนสุขภาวะต้นแบบการป้องกันปัญหาหมอกควัน อำเภอปง จังหวัดพะเยา
(Development of healthy community model for Smog Pollution Prevention in Pong District, Phayao Province). วารสารสิ่งแวดล้อม, ปีที่ 23 (ฉบับที่ 4).
บทความ: การพัฒนาชุมชนสุขภาวะต้นแบบการป้องกันปัญหาหมอกควัน อำเภอปง จังหวัดพะเยา
(Development of healthy community model for Smog Pollution Prevention in Pong District, Phayao Province)
ณรงค์ ใจเที่ยง และ ปฏิพัทธ์ วงค์เรือง
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา
บทนำ
ปัญหาหมอกควันมีความรุนแรงและส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนในพื้นที่จังหวัดพะเยา ซึ่งปัญหาสุขภาพส่วนใหญ่ที่พบบ่อยคือ คันตา แสบตา แสบจมูก หรือคันตามผิวหนัง ข้อมูลจาก สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพะเยา แสดงให้เห็นว่าในช่วงเฝ้าระวังหมอกควัน พ.ศ.2560 อำเภอปงมีข้อมูลรายงานการเฝ้าระวังผลกระทบด้านสุขภาพ ใน 4 กลุ่มโรค จำนวนทั้งสิ้น 8,592 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 16,919 ต่อประชากรแสนคน กลุ่มโรคที่มีรายงานสูงสุด ได้แก่ กลุ่มโรคหัวใจและหลอดเลือดทุกชนิด จำนวน 4,381 คน กลุ่มโรคทางเดินหายใจทุกชนิด จำนวน 3,799 คน กลุ่มโรคผิวหนังอักเสบ 470 คน และกลุ่มโรคตาอักเสบ 320 คน ตามลำดับ ความรุนแรงของปัญหาโดยทั่วไปปรากฏชัดเจนในช่วงหน้าแล้ง (ธันวาคม-เมษายน) ของทุกปี ที่มีสภาวะอากาศที่แห้งและนิ่ง ทำให้ฝุ่นละอองขนาดเล็กที่เกิดขึ้นสามารถแขวนลอยอยู่ในบรรยากาศได้นาน จะเห็นได้ชัดเจนจากการบดบังทัศนวิสัยในการมองเห็นเมื่อเปรียบเทียบกับฤดูกาลอื่นดังรูปที่ 1
นอกจากนี้ยังพบว่าปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กเพิ่มขึ้นเนื่องจากความแห้งแล้งที่ส่งผลให้เกิดการเพิ่มขึ้นของไฟป่า ประกอบกับในช่วงเวลาดังกล่าว เกษตรกรจะทำการเผาเศษวัสดุเพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับทำการเกษตรในช่วงฤดูฝน สำหรับปีที่มีฝนตกน้อยหรือเกิดภาวะแห้งแล้งจะทำให้การชะล้างหมอกควันหรือฝุ่นที่แขวนลอยในอากาศเป็นไปได้น้อย จากการวิจัยที่ผ่านมาข้อมูลชุดแรกของการจัดทำบัญชีการระบายมลพิษอากาศจากการเผาในที่โล่งแสดงให้เห็นชัดเจนว่า พื้นที่ที่ถูกเผาและมีการปล่อยฝุ่นละอองมากที่สุดในจังหวัดพะเยา คือ อำเภอปงมากถึง ร้อยละ 55 รองลงมาคือ อำเภอเชียงคำ อำเภอเชียงม่วน อำเภอเมือง อำเภอภูซาง อำเภอดอกคำใต้ อำเภอภูกามยาว อำเภอจุน และอำเภอแม่ใจ ตามลำดับ การเผาชีวมวลส่วนใหญ่พบในพื้นที่ป่าไม้ ร้อยละ 93 นอกจากนี้ยังพบว่าการเผาส่วนใหญ่มีปริมาณมากในเดือน มีนาคม เมษายน กุมภาพันธ์ (ธนัตถ์นพนันท์ และ สิทธิชัย, 2555) นอกจากนั้นยังพบว่าข้อมูลจุดความร้อนการเผาที่พบด้วยดาวเทียม TERRA และ AQUA ปรากฏสูงสุดตั้งแต่ปี พ.ศ. 2552-2559 พบในพื้นที่อำเภอปง ร้อยละ 43 ของจุดความร้อนทุกอำเภอของจังหวัดพะเยา แสดงดังภาพ 2 การติดตามคุณภาพอากาศจังหวัดพะเยาโดยกรมควบคุมมลพิษ ใช้ข้อมูลจากสถานีติดตามคุณภาพอากาศที่อำเภอเมืองพะเยา โดยจากการวิเคราะห์ข้อมูลคุณภาพอากาศปี 2552 และ 2553 พบว่า ฝุ่นละออง คือ ปัญหาคุณภาพอากาศที่รุนแรงมากที่สุด โดยพบว่าจำนวนวันที่เกินมาตรฐาน ค่าเฉลี่ยรายวันมากกว่าร้อยละ 15 ความเข้มข้น PM10 ส่วนใหญ่พบว่าเกินเกณฑ์มาตรฐานในเดือนมีนาคม และจากการวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงภายในวันพบว่าความเข้มข้น PM10 สูงในตอนกลางวันสอดคล้องกับจำนวนจุดความร้อนที่มีปริมาณมากในช่วงเวลาเดียวกัน (สิทธิชัย และภูมิเมษฐ์, 2554) จากข้อมูลผลการจำลองการแพร่กระจายฝุ่นละอองด้วยแบบจำลอง The Community Multiscale Air Quality Modeling System ของจังหวัดพะเยาในช่วงที่มีการเผารุนแรงโดยพบว่าอำเภอปงเป็นพื้นที่ที่มีการเผาหรือจำนวนจุดความร้อนมากที่สุดโดยจะส่งผลทำให้จำนวนวันที่ระดับ PM10 เกินมาตรฐานมีมากที่สุดในขณะที่การตรวจวัดคุณภาพอากาศของจังหวัดพะเยามีเพียงที่เดียวในพื้นที่อำเภอเมืองซึ่งมีระดับแตกต่างจากพื้นที่อำเภอปงเป็นอย่างมาก
จะเห็นได้ว่าอำเภอปงจังหวัดพะเยามีความรุนแรงของปัญหาหมอกควันและส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนเป็นอย่างมาก การแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนคือการลดการเผาในที่โล่งซึ่งที่ผ่านมาหลายหน่วยงานได้พยายามแก้ไขอย่างต่อเนื่องซึ่งการแก้ไขจะต้องใช้ระยะเวลานานเนื่องจากประชาชนยังมีวิถีชีวิตความรู้ความเข้าใจที่ยังเกี่ยวข้องกับการเผา สำหรับโครงการนี้มีวัตถุประสงเพื่อสร้างโมเดลชุมชนต้นแบบในการป้องกันสุขภาพจากปัญหาหมอกควันการเผาในที่โล่งในพื้นที่อำเภอปง ซึ่งสามารถปฏิบัติได้ทันที ด้วยการปรับตัวและป้องกัน ด้านสุขภาพ ตามหลักการป้องกันมลพิษอย่างถูกต้อง โดยลดการสัมผัสกับฝุ่นละออง ด้วยการป้องกันทั้งภายนอกอาคาร และภายในอาคาร นอกจากนั้นโครงการยังอบรมให้ความรู้แก่ประชาชนให้ตระหนักถึงปัญหาหมอกควันจากการเผาในที่โล่งซึ่งจะนำไปสู่การลดการเผา การเป็นหมู่บ้านต้นแบบสำหรับพื้นที่อื่นที่ประสบปัญหาหมอกควันจากการเผาในที่โล่งในเขตภาคเหนือตอนบนของไทย
รูปที่ 1 เปรียบเทียบการบดบังทัศนวิสัยในการมองเห็นช่วงที่มีหมอกควัน พื้นที่ ผาช้างน้อย วนอุทยานภูลังกา
อำเภอปง จังหวัดพะเยา
รูปที่ 2 สถิติจุดความร้อนรายอำเภอที่พบในจังหวัดพะเยาตั้งแต่ปี พ.ศ.2552-2559
รูปที่ 3 แผนที่จุดความร้อนและ จำนวนวันที่ฝุ่นละอองเกินมาตรฐานในเดือนมีนาคม พ.ศ.2555 จ.พะเยา
สถานการณ์ในปี 2561 - เมษายน 2562
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพะเยา (สสจ.พะเยา) เผยสถานการณ์หมอกควันยังอันตราย ผู้ป่วย 4 กลุ่มโรค มีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นถึง 3.3 พันราย สถานการณ์หมอกควันในพื้นที่ จ.พะเยา ยังคงไม่คลี่คลาย ตั้งแต่เดือนมีนาคม-เมษายน 2562 พบค่า PM 2.5 ยังคงเกินมาตรฐาน โดยจากผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ ต.บ้านต๋อม อ.เมือง พบปริมาณฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) มีค่า 55 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (µg/m3) อยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ขณะที่สถานการณ์ไฟป่าล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมา ยังพบไฟป่าเกิดขึ้นในพื้นที่จำนวนหลายจุด ซึ่งส่งผลกระทบต่อปัญหาหมอกควันอย่างต่อเนื่อง ส่วนสถานการไฟป่า ใน จ.พะเยา ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง วันที่ 2 เม.ย.62 ที่ผ่านมา เกิดไฟไหม้ป่าในเขต อ.ปง หลายจุด เจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไฟป่าดอยผาช้าง สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 (เชียงราย) ปฏิบัติการดับไฟป่า บริเวณห้วยต้นงุ้น บ้านน้ำแป้ง ม.2 ต.ขุนควร อ.ปง และป่าแม่ยม บริเวณห้วยผาแดง บ้านสันกลาง ม.12 ต.ขุนควร บ้านสันติสุข ม.7 ต.ขุนควร ระหว่าง กม.16-17 พิกัดที่ 47Q 651321 E 2119571 N / 47Q 651980 E 2109124 N ซึ่งเป็นป่าไม้เต็งรัง ป่าเบญจพรรณ ทำให้พื้นที่ถูกไฟป่าเผาผลาญรวมพื้นที่เสียหายประมาณ 50 ไร่ ส่วนสาเหตุคาดว่าเกิดจากการหาของป่า นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา สั่งการห้ามเผาทุกอย่างในพื้นที่เพื่อรับมือปัญหาหมอกควันและไฟป่า
นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ประกาศมาตรการ 60 วันอันตราย ห้ามเผาทุกชนิดโดยเด็ดขาด ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ – 15 เมษายน 2562 และขอความร่วมมือทุกภาคส่วน ห้ามไม่ให้มีการเผาใดๆ โดยเด็ดขาด หากตรวจสอบว่าพื้นที่ใดมีไฟ และเกิดจุดความร้อน (Hotspot) ขึ้น ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) หัวหน้าที่รับผิดชอบ ให้เข้าพบผู้ว่าฯ เพื่อรายงานสถานการณ์ และแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน ฝ่าฝืนมีโทษจำคุก ตั้งแต่ 2-15 ปี ค่าปรับตั้งแต่ 20,000 – 150,000 บาท ส่วนวันที่ 16 เมษายน – 16 พฤษภาคม 2562 การจัดระเบียบการเผาเตรียมพื้นที่ทำกิน เจ้าของที่ดินต้องขออนุญาตจาก นายอำเภอท้องที่ และห้ามไม่ให้ลุกลามเข้าพื้นที่ป่า หากเกิดไฟลุกลามเข้าเขตป่า จะต้องถูกดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด และนอกจากนี้ยังมีประกาศจากกองบัญชาการควบคุมแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันระดับภาคส่วนหน้า เรื่องการขยายเวลาช่วงวิกฤติหมอกควันออกไปถึงวันที่ 30 เมษายน 2562
ที่มา: พะเยาทีวี (14 เมษายน 2562) https://www.facebook.com/phayaotv/photos
แนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาสุขภาวะของประชาชน ในพื้นที่ อ.ปง จ.พะเยา
การลงพื้นที่เพื่อเก็บข้อมูลครั้งแรกเป็นการสำรวจเชิงพื้นที่ด้วยการสอบถามและการเก็บข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ภายในพื้นที่ซึ่งเป็นการรวบรวมและวิเคราะห์ถึงสภาพของปัญหาฝุ่นละอองและลักษณะการสัมผัสฝุ่นละอองเพื่อเป็นข้อมูลพื้นฐานชุมชนซึ่งไม่เคยมีมาก่อนนอกจากจะวิเคราะห์จากข้อมูลที่คณะดำเนินการลงพื้นที่แล้วยังมีข้อมูลเสริมจากการใช้ดาวเทียมตรวจจับจุดความร้อนจาก MODIS ตั้งแต่ปี 2544 จนถึงเดือนเมษายน 2562 การบอกพื้นที่การเผาและจำนวนของการเผา และยังใช้เทคโนโลยีดาวเทียมตัวใหมซึ่่งมีความละเอียดสูงที่สุด VIIRS 375 ตารางเมตรซึ่งเป็นเทคโนโลยใหม่สำหรับพื้นที่และประเทศไทยใช้สำหรับบ่งชี้จุดการเผาไหม้ที่ละเอียดและแม่นยำ ข้อมูลเหล่านี้เมื่อวิเคราะห์เสร็จสิ้นจึงนำมาเสนอให้กับชุมชนและให้ข้อมูลกับทางหน่วยงานที่เป็นองค์การบริหารจัดการของตำบล เพื่อใช้เป็นข้อมูลเดิมในการจัดการการเผาต่อไปนอกจากข้อมูลการเผาแล้วยังมีการวิเคราะห์ข้อมูลด้านสุขภาพร่วมโดยข้อมูลของผู้ป่วยอันเนื่องมาจากหมอกควันการเผาในที่โล่งในสี่กลุ่มโรค ได้แก่ กลุ่มโรคหัวใจและหลอดเลือดทุกชนิด กลุ่มโรคทางเดินหายใจทุกชนิด กลุ่มโรคผิวหนังอักเสบ และกลุ่มโรคตาอักเสบ
การลงพื้นที่ครั้งที่สองเริ่มต้นด้วยการวางแผนการจัดงานการนัดหมายปรึกษาเพื่อเตรียมสถานที่จัดการนำเสนองานและการรวมมวลชนชาวบ้านทั้งหมด 12 หมู่บ้าน ผู้นำชุมชน สมาชิกอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อพปร.) ผู้ปฏิบัติงานของชุมชน การจัดงานในโครงการบริการวิชาการเพื่อสนับสนุนโครงการ “1 คณะ 1 โมเดล” คณะทำงานได้จัดงาน รูปแบบแนวคิดของการบริการโดยทีมสหสาขาวิชาชีพ คณะแพทยศาสตร์ ที่ รพ.สต.ขุนควร สำหรับกิจกรรมที่ดำเนินในโครงการ ประกอบด้วยกิจกรรมดังต่อไปนี้
1. กิจกรรมตรวจวัดความดันโลหิต และส่งเสริมการเลือกรับประทานอาหารที่ป้องกันการเกิดโรคที่ไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDS) โดยทีมคณาจารย์ และนิสิตสาขาวิชาอนามัยชุมชน และส่งเสริมสุขภาพกิจกรรมการตรวจวัดความดันโลหิตก่อนเข้าร่วมกิจกรรมทั้งหมดดำเนิน การหลังจากการลงทะเบียนเป็นการคัดกรองระดับความดันเพื่อเป็นข้อมูลในการให้บริการรักษาในกิจกรรมอื่นต่อไป และเป็นข้อมูลพื้นฐานสำหรับการวิเคราะห์เพื่อหาสาเหตุและแนวทางในการสร้างเสริมสุขภาพให้สามารถลดอัตราการเกิดโรค
2. กิจกรรมให้ความรู้เรื่อง โรคเบาหวานความดัน จะใช้การจำแนกกลุ่มโดยใช้วิธีปิงปองจราจร ชีวิต 7 สี โดยนิสิตสาขาวิชาอนามัยชุมชน และส่งเสริมสุขภาพกิจกรรมการบรรยายให้ความรู้เรื่อง โรคเบาหวานความดัน แบบจำลองปิงปองจราจรชีวิต 7 สี อธิบายถึงระดับของโรคและการดูแลสุขภาพเพื่อลดระดับของโรคเบาหวานความดันให้กับประชาชน นอกจากนั้นยังมีการนำเสนอโดยใช้โมเดลอาหารโดยนิสิตนำเสนอวิธีการรับประทานที่ถูกต้องเพื่อหลีกเลี่ยงโรคเบาหวานความดัน
3. กิจกรรมบริการวิชาการด้านหมอกควัน และฝุ่นละออง โดย คณาจารย์และนิสิตสาขาวิชาอนามัยสิ่งแวดล้อมลักษณะของการจัดกิจกรรมการบรรยายให้ความรู้เรื่อง หมอกควันและฝุ่นละอองในบรรยากาศโดยใช้ข้อมูลของพื้นที่ที่มีการรวบรวมเพื่อนำมาเสนอกับประชาชนในพื้นที่ แนะนำวิธีการป้องกันตนเองและหลีกเลี่ยงการรับสัมผัสของหมอกควัน ทั้งการใช้ชีวิตประจำวันและการประกอบอาชีพที่มีโอกาสเสี่ยงต่อการได้รับสัมผัส
4. กิจกรรมให้ความรู้เรื่องการดูแลโรคในการประกอบอาชีพเกษตรกรรม โดยคณาจารย์และนิสิตสาขาวิชาอาชีวอนามัยและความปลอดภัยลักษณะของการจัดกิจกรรมการบรรยายให้ความรู้เรื่องการดูแลตนเองในการประกอบอาชีพทางการเกษตรที่มีโอกาสได้รับมลพิษจากการใช้ยาฆ่าแมลงโดยวิทยากรได้สาธิตวิธีในการสวมเครื่องป้องกันขณะพ่นสารเคมีทางการเกษตรอย่างถูกต้อง
5. กิจกรรมให้ความรู้เรื่องการแพทย์แผนไทยโดยใช้ฤาษีดัดตนและความรู้การใช้เรื่องสมุนไพรโดยคณาจารย์และนิสิตสาขาวิชาการแพทย์แผนไทยประยุกต์ลักษณะของกิจกรรมประกอบไปด้วยการบรรยายให้ความรู้ด้าการแพทย์แผนไทยประยุกต์กับชุมชนโดยเป็นการบูรณาการด้านการเรียนการสอนลงสู่ชุมชน การสอนฤาษีดัดตน การให้ความรู้เรื่องยาสมุนไพรในท้องถิ่นและการนำมาใช้ นอกจากนั้นยังมีการให้บริการด้านการนวดแผนไทย ยาสมุนไพรสำหรับผู้ที่ต้องการการรักษา
6. กิจกรรมให้ความรู้และการรักษาโดยใช้การวิธีการรักษาแบบกดจุดและฝังเข็ม โดยคณาจารย์และนิสิตสาขาวิชาการแพทย์แผนจีนลักษณะของกิจกรรมประกอบไปด้วยการบรรยายให้ความรู้ด้านการกดจุดเบื้องต้นที่ประชาชนสามารถปฏิบัติและนำไปใช้เองได้ที่บ้าน นอกจากนั้นยังให้บริการการรักษาโดยการฝังเข็มสำหรับผู้ต้องการรักษาอีกด้วย
7. กิจกรรมการช่วยเหลือชีวิต โดยวิธีการช่วยฟื้นคืนชีพ (CPR) โดยคณาจารย์และนิสิตสาขาวิชาเวชกิจฉุกเฉินลักษณะของกิจกรรมเป็นการให้ความรู้และปฏิบัติโดยทีมคณะจารย์และนิสิตสาขาเวชกิจฉุกเฉินทั้งการช่วยฟื้นคืนชีพ และการใช้อุปกรณ์ภายในรถฉุกเฉินของหน่วย อพปร. เพื่อเป็นการฝึกการใช้เครื่องมืออย่างถูกต้องและถือเป็นการเตรียมความพร้อมสาหรับหน่วยในช่วงสงกรานต์ที่มีโอกาสจะเกิดอุบัติเหตุได้มากกว่าช่วงเวลาปกติ
ผลลัพธ์ในการบริการวิชาการแก่สังคม
การจัดโครงการ โดยดำเนินกิจกรรมทั้งหมดนี้ มีเป้าหมายเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจและทัศนคติทีดีต่อสุขภาพในการป้องกันโรคให้เป็นชุมชนที่มีสุขภาพดี นอกจากจะช่วยเสริมสร้างสังคมยังเป็นการบริการวิชาการการแก่สังคม โดยอาจารย์และนิสิตได้เข้ามาช่วยเหลือสังคม ทั้งการให้ความรู้ การบริการด้านสุขภาพ ผลลัพท์
ที่เกิดขึ้นกับสังคมนั้นเกิดประโยชน์เป็นอย่างมาก คณะทำงานได้ศึกษาชุมชนพัฒนาทักษะในการจัดโครงการบริการวิชาการแก่สังคม นิสิตได้องค์ความรู้ ปฏิบัติงานกับสังคมร่วมกับอาจารย์ ได้ใช้วิชาที่ศึกษาเล่าเรียนมาสร้างประโยชน์ให้กับสังคม ทำให้เกิดทักษะในการทางานอีกด้วย ผลลัพธ์เชิงวิชาการ เกิดการศึกษาในพื้นที่แหล่งกำเนิดการเผาในที่โล่งที่สำคัญ เกิดผลกระทบต่อสุขภาพ ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจ และการปฎิบัติตนให้ปลอดภัยจากหมอกควัน สามารถการประเมินสถานการณ์หมอกควันและความเสี่ยงต่อสุขภาพ และโครงการบริการวิชาการแก่สังคมดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนโครงการ 1 คณะ 1 โมเดล ประจำปีงบประมาณ 2561 ตามปณิธานของมหาวิทยาลัยพะเยา คือปัญญาเพื่อความเข้มแข็งของชุมชน Wisdom for Community Empowerment
ปัจจัยสำคัญในการสร้างชุมชนต้นแบบ กรณีพื้นที่ รพ.สต.ขุนควร อ.ปง จ.พะเยา
จากการดำเนินกิจกรรมโครงการพัฒนาชุมชนสุขภาวะต้นแบบการป้องกันปัญหาหมอกควันของอำเภอปง ตั้งแต่คณะทำงานลงพื้นที่ชุมชน โดยการประสานงานจากทางนายอำเภอปง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สาธารณสุขอำเภอปง และก็เข้าพื้นที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลขุนควร อำเภอปง จังหวัดพะเยา ได้รับการประสานงานจากคุณสมพร ทาจุมปู ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ พร้อมเจ้าหน้าที่ และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ที่คอยให้ความร่วมมือ ประสานงานจัดกิจกรรมทั้ง 7 กิจกรรม และคณะทำงานร่วมกับ รพ.สต. อสม.จัดกิจกรรมได้ประสบความสำเร็จตลอดจนประชาชนที่เข้าร่วมโครงการทุกคนเมื่อเข้าร่วมกิจกรรมทั้งหมดแล้ว จะพบผลลัพธ์ของชุมชนต้นแบบในแต่ละกิจกรรมดังนี้
กิจกรรมที่ 1 และ 2 การสร้างต้นแบบผู้นำด้านการตรวจสุขภาพ เบาหวาน ความดันโลหิต กลุ่มนี้จะมีต้นแบบที่เป็น อสม. จะเป็นผู้ที่ต่อยอดในการลงชุมชนที่ตนเองรับผิดชอบครัวเรือน เพื่อตรวจวัดความดันโลหิต ตลอดจนเป็นต้นแบบทางสุขภาพในการเลือกรับประทานอาหารที่มีคุณประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยจะมีการติดตามและรายงานผลเป็นรายงานการปฏิบัติงานของ อสม.ทุกรอบ 6 เดือน
กิจกรรมที่ 3 สร้างแกนนำที่เป็นอาสาสมัครในการรณรงค์ป้องกันไฟป่า หรือปัญหาหมอกควันในพื้นที่ มีจุดรายงานและควบคุมสถานการณ์การเกิดไฟป่า หมอกควัน ร่วมกับองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ส่วนใหญ่อาสาสมัครจะเป็นผู้นำชุมชนที่ได้รับมอบหมาย
กิจกรรมที่ 4 แกนนำเกษตรกรผู้ใช้ยาฆ่าแมลง หรือสารกำจัดศัตรูพืช มีส่วนร่วมในการจัดตั้งกลุ่มในหมู่บ้าน ตลอดจนมีการติดตามปริมาณการใช้สารเคมีของเกษตรกรแต่ละคน และมีการตรวจวัดสารเคมีที่ตกค้างในร่างกายเป็นประจำทุก 6 เดือน พร้อมหาวิธีป้องกันการเกิดสารตกค้างในร่างกาย
กิจกรรมที่ 5 มีแกนนำในการปลูกพืชสมุนไพรเพื่อใช้ในการรักษา และจัดตั้งศูนย์ฮอมฮักของ รพ.สต. เพื่อเป็นสถานที่ในการรวมกลุ่มกันของแกนนำในการนำสมุนไพรมาแปรรูปและใช้ในการจัดทำสมุนไพรรักษาโรค
กิจกรรมที่ 6 สร้างต้นแบบของตัวแทนในชุมชน โดยการฝึกฝนการกดจุด ซึ่งกลุ่มนี้จะต้องเรียนรู้กันโดยใช้เวลานาน เนื่องจากศาสตร์การแพทย์แผนจีน เป็นการแพทย์ที่เข้ามาใหม่ และเป็นที่น่าสนใจจึงมีการขยายและบอกต่อ โดยศาสตร์ทางแพทย์แผนจีนเมื่อจะทำการรักษา ต้องเชิญคณาจารย์และนิสิตเข้ามาเป็นวิทยากรทุกครั้ง
กิจกรรมที่ 7 การแพทย์ฉุกเฉิน ส่วนใหญ่จะเป็นอาสาสมัครกู้ภัย กู้ชีพ ประจำตำบล และหมู่บ้าน ซึ่งในพื้นที่มีอุปกรณ์เครื่องมือที่ทันสมัย สามารถนำมาใช้ได้ทันทีเมื่อเกิดเหตุ ดังนั้นชุมชนต้นแบบนี้ส่วนใหญ่จะให้ความสนใจในการเป็นจิตอาสา และอาสาสมัครเข้ามาเป็นการขยายาผลได้อย่ารวดเร็ว โดยเริ่มจาก ผู้นำชุมชน ฝ่ายปกครอง และก็กู้ภัยวัยรุ่น
จากกิจกรรมทั้งหมดนี้ จะชี้ให้เห็นได้ว่าปัจจัยที่มีความสำคัญต่อการสร้างต้นแบบคือการได้เรียนรู้จากทุกศาสตร์ และเกิดจากความสนใจของแต่ละคน ซึ่งความสำเร็จที่เกิดขึ้นคือชุมชนได้แกนนำที่เป็นต้นแบบแต่ละด้านอย่างครบวงจร ที่สามารถเกื้อหนุนให้ชุมชนมีภาวะสุขภาพที่ดี มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ตลอดจนเกิดเป็นต้นแบบของทางด้านสุขภาพชุมชนที่ประสบความสำเร็จ
บรรณานุกรม
ธนัตถ์นพนันท์ เรือนเงิน สิทธิชัย พิมลศรี, (2555), การปล่อยมลพิษอากาศจากการเผาชีวมวลในจังหวัดพะเยาโดยใช้ข้อมูลดาวเทียม, การประชุมวิชาการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติครั้งที่ 11, เชียงราย, วันที่ 21-23 มีนาคม 2555
ปฏิพัทธ์ วงค์เรือง ปรุงจันทร์ วงศ์วิเศษ สิทธิชัย พิมลศรี, (2555), ความสัมพันธ์ระหว่างจุดความร้อนกับความเข้มข้น PM10 ในเขตภาคเหนือประเทศไทย, การประชุมวิชาการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติครั้งที่ 11, เชียงราย, วันที่ 21-23 มีนาคม 2555
ปฏิพัทธ์ วงค์เรือง และคณะ, (2561),รายงานการพัฒนาชุมชนสุขภาวะต้นแบบการป้องกันปัญหาหมอกควัน อำเภอปง จังหวัดพะเยา,การประชุมวิชาการโครงการ 1คณะ 1 โมเดล,มหาวิทยาลัยพะเยา, วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2562 แหล่งทีมา:
พะเยาทีวี.ประกาศกองบัญชาการควบคุม แก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันระดับส่วนหน้า จังหวัดพะเยา [ออนไลน์].2562 https://www.facebook.com/phayaotv/photos. [14 เมษายน 2560]
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพะเยา, 2561, รายงานการเฝ้าระวังปัญหาหมอกควัน. จาก http://www.pyomoph.go.th/sub_index.php?id_type=1
สิทธิชัย พิมลศรี ภูมิเมษฐ์ เมืองใจ, (2554) สถานการณ์และการเปลี่ยนแปลงมลพิษอากาศในจังหวัดพะเยา, วารสารนเรศวรพะเยา, ฉบับที่ 3, กันยายน-ธันวาคม 2554
workpointnews. ผู้ว่าฯ พะเยา สั่งห้ามการเผาทุกอย่างในพื้นที่เพื่อรับมือปัญหาหมอกควันและไฟป่า[ออนไลน์]. 2562. แหล่งที่มา: workpointnews.com/2019/02/02/ป้องกันพิษหมอกควัน/ [14 เมษายน 2560]