บทคัดย่อ
ความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อการจัดการสิ่งแวดล้อมเมืองในเทศบาลตำบลทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ณัฐภากัญญ์ ชูสินภาณุมาศ และ วราลักษณ์ คงอ้วน คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการผังเมือง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ณัฐภากัญญ์ ชูสินภาณุมาศ และ วราลักษณ์ คงอ้วน. (2561). ความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อการจัดการสิ่งแวดล้อมเมืองในเทศบาลตำบลทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี. วารสารสิ่งแวดล้อม, ปีที่ 22 (ฉบับที่ 2), 21-29.
ความคิดเห็นของประชาชน
ที่มีต่อการจัดการสิ่งแวดล้อมเมือง
ในเทศบาลตำบลทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี
ณัฐภากัญญ์ ชูสินภาณุมาศ และ วราลักษณ์ คงอ้วน
คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการผังเมือง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
บทนำ
เทศบาลตำบลทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ครอบคลุมพื้นที่ทั้งสิ้น 3.28 ตารางกิโลเมตร เป็นพื้นที่ที่มีทำเลที่ตั้งอยู่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง เช่น อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ อุทยานแห่งชาติเขาแหลม เหมืองปิล๊อก วัดทองผาภูมิ วัดท่าขนุน ฯลฯ ส่งผลให้เกิดการขยายตัวทางการท่องเที่ยวในพื้นที่อย่างรวดเร็ว ดังจะเห็นได้จากการมีจำนวนนักท่องเที่ยวกว่า 100,000 คน/ปี และการขยายตัวของโรงแรมกว่า 200 แห่ง บริเวณริมแม่น้ำแควน้อย (สำนักงานเทศบาลตาบลองผาภูมิ, 2560) อย่างไรก็ตาม การขยายตัวทางการท่องเที่ยวดังกล่าว ก่อให้เกิดผลกระทบทางลบต่อสิ่งแวดล้อมเมืองตามมา ไม่ว่าจะเป็นปัญหาขยะมูลฝอยตกค้าง ปัญหาน้ำมีลักษณะขุ่น ไม่เหมาะสมต่อการทำเกษตรกรรมในบริเวณชุมชนริมฝั่งแม่น้ำแควน้อย เป็นต้น
การศึกษาสถานการณ์สิ่งแวดล้อมเมืองและความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อการจัดการสิ่งแวดล้อมเมืองในเขตเทศบาลตำบลทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี จะนำไปสู่การตระหนักในปัญหาสิ่งแวดล้อมเมือง ตลอดจนความพึงพอใจและความต้องการของประชาชนที่มีต่อการจัดการสิ่งแวดล้อม อันเป็นประโยชน์ต่อการเสนอแนะแนวทางการจัดการสิ่งแวดล้อมเมืองที่สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนและเหมาะสมกับสภาพพื้นที่ได้ ผลการศึกษาที่ได้จึงสะท้อนให้เห็นถึงประโยชน์ของการมีส่วนร่วมของประชาชนกับการจัดการสิ่งแวดล้อม ทั้งในประเด็นของการเพิ่มคุณภาพการตัดสินใจ การสร้างความตระหนักของหน่วยงานภาครัฐที่มีต่อความต้องการของประชาชน การเพิ่มความง่ายต่อการปฏิบัติของแผนและการพัฒนาความเชี่ยวชาญและความคิดสร้างสรรค์ของสาธารณชน (เจมส์ แอล เครตัน, 2545)
บทความนี้ จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอภาพของปัญหาสิ่งแวดล้อมเมืองและความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อการจัดการสิ่งแวดล้อมเมืองในเขตเทศบาลตำบลทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี พร้อมทั้ง เสนอแนะแนวทางการจัดการสิ่งแวดล้อมเมือง โดยมาตรการทางผังเมืองที่สอดคล้องต่อความต้องการของประชาชนและเหมาะสมกับสภาพพื้นที่ อันเป็นการป้องกันและแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมไม่ให้ทวีความรุนแรง อีกทั้งยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้ดียิ่งขึ้น
กรอบการศึกษาปัญหาสิ่งแวดล้อมเมือง
การศึกษาและวิเคราะห์ปัญหาสิ่งแวดล้อมเมือง พิจารณาเฉพาะประเด็นทางด้านกายภาพ ได้แก่ การใช้ประโยชน์ที่ดิน การคมนาคมและขนส่ง การระบายน้ำและกำจัดน้ำเสีย และการจัดการขยะมูลฝอย เนื่องจากปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมเมืองที่ประชาชนสามารถรับรู้และแสดงความคิดเห็นได้อย่างชัดเจน อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่โดยตรง การเก็บข้อมูลในพื้นที่ดำเนินการโดยการทำแบบสอบถาม ด้วยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบทราบประชากรของยามาเน่ (Yamane, 1973) จากจำนวนครัวเรือนที่พักอาศัยอยู่ในเขตเทศบาลตำบลทองผาภูมิ 1,519 ครัวเรือน ใน พ.ศ. 2557 ที่ค่าความเชื่อมั่นร้อยละ 90 จะได้กลุ่มตัวอย่างเท่ากับ 93.82 ชุด (ในการเก็บข้อมูลจริง กลุ่มตัวอย่างเท่ากับ 100 ชุด) (ประคอง กรรณสูตร, 2542)
สำหรับการแบ่งเกณฑ์ในการพิจารณาค่าเฉลี่ยระดับความคิดเห็นแบ่งเป็น 5 ระดับ ได้แก่ น้อยที่สุด (ช่วงคะแนน 1.00-1.50) น้อย (ช่วงคะแนน 1.51-2.50) ปานกลาง (ช่วงคะแนน 2.51-3.50) มาก (ช่วงคะแนน 3.51-4.50) และมากที่สุด (ช่วงคะแนน 4.51-5.00)
ปัญหาสิ่งแวดล้อมเมืองทองผาภูมิ
ปัญหาสิ่งแวดล้อมเมืองในพื้นที่เมืองทองผาภูมิที่ได้จากการสำรวจภาคสนามและการจัดทำแบบสอบถาม แบ่งเป็น 4 ประเด็นสำคัญ ได้แก่ การใช้ประโยชน์ที่ดิน การคมนาคมและขนส่ง การระบายน้ำและบำบัดน้ำเสียและการจัดการขยะมูลฝอย แสดงรายละเอียดดังนี้ (รูปภาพที่ 1)
1. การใช้ประโยชน์ที่ดิน
พื้นที่ศึกษามีการใช้ประโยชน์ที่ดิน 7 ประเภท ได้แก่ ที่อยู่อาศัย พาณิชยกรรม อุตสาหกรรม สถาบันการศึกษา สถาบันการศาสนา สถาบันราชการ การสาธารณูปโภคและสาธารณูปการ และชนบทและเกษตรกรรม โดยพื้นที่ที่มีการกระจุกตัวของที่อยู่อาศัยและพาณิชยกรรมหนาแน่น ได้แก่ บริเวณถนนเทศบาลสายหลักต่อเนื่องไปจนถึงบริเวณริมแม่น้ำแควน้อย และทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3272 โดยลักษณะอาคารส่วนใหญ่ เป็นอาคารเดี่ยว ตึกแถว และห้องแถว โดยปัญหาการใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่ศึกษา สรุปได้ดังนี้
1) การเพิ่มขึ้นของอาคาร สิ่งก่อสร้างและพื้นที่เมือง ผลจากการเติบโตอย่างรวดเร็วของการท่องเที่ยวในพื้นที่ ส่งผลให้เกิดการเพิ่มขึ้นของจำนวนสถานประกอบการระหว่างปี พ.ศ.2550 ถึง พ.ศ. 2560 เป็นจำนวนมากถึง 540 แห่ง (สำนักงานสถิติแห่งชาติ, 2560) ทั้งในลักษณะที่พักแรม ร้านบริการอาหารและเครื่องดื่ม และร้านขายปลีก นอกจากนี้ ยังทำให้เกิดการลดลงของพื้นที่สีเขียวบริเวณริมแม่น้ำแควน้อย ทั้งในลักษณะพื้นที่เกษตรกรรมและพื้นที่ป่าไม้
2) การก่อสร้างอาคารและถนนขวางทางน้ำ การก่อสร้างอาคาร สิ่งก่อสร้างบริเวณถนนบุษปวนิชที่ขวางทางน้ำ ก่อให้เกิดอุปสรรคต่อการระบายน้ำและการลดลงของพื้นที่รับน้ำ อันเป็นผลให้เกิดปัญหาน้ำท่วมขังในช่วงฤดูฝนตามมา
3) การขาดความเป็นระเบียบและสวยงามของภูมิทัศน์เมือง การสร้างอาคารสิ่งก่อสร้างที่ไม่เป็นระเบียบและมีสภาพแออัด โดยเฉพาะบริเวณตลาดทองผาภูมิ ส่งผลให้ทัศนียภาพของชุมชนไม่เป็นระเบียบเรียบร้อยสวยงาม นอกจากนี้ พื้นที่สวนสาธารณะยังขาดซึ่งการทำนุบำรุง ดูแลรักษา เช่น ในบริเวณท่าน้ำเทศบาลตำบลทองผาภูมิ สะพานแขวนวัดท่าขนุน และสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ฯลฯ
รูปภาพที่ 1 ปัญหาสิ่งแวดล้อมเมืองในพื้นที่ศึกษา
ที่มา : จากการสำรวจภาคสนามเดือนมกราคม พ.ศ.2560
2. การคมนาคมและขนส่ง
เส้นทางคมนาคมและขนส่งของเทศบาลตำบลทองผาภูมิ ประกอบด้วย ถนนสายประธาน ได้แก่ ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3272 ถนนสายหลัก คือ ถนนเทศบาลสายหลัก ถนนสายรอง คือ ถนนบุษปวนิช ถนนเทศบาล 1–17 และถนนเทศบาล 22 ส่วนถนนสายย่อย ได้แก่ ตรอกและซอยย่อยต่าง ๆ ระบบถนนในพื้นที่มีลักษณะเป็นถนนแบบเส้นตรง (Linear Road System) สายสั้น ๆ บรรจบกับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3272 และถนนเทศบาลสายหลัก พื้นที่เทศบาลตำบลทองผาภูมิประสบปัญหาด้านการคมนาคมและขนส่งต่าง ๆ ดังนี้
1) การจราจรติดขัดในเวลาเร่งด่วน จากลักษณะการตั้งถิ่นฐานของชุมชนที่เกาะตัวตามแนวถนนเทศบาลสายหลัก ประกอบกับ ความกว้างของผิวถนนที่ค่อนข้างคับแคบ ไม่มีทางเท้า หรือไหล่ทาง (รูปภาพที่ 2) และไม่มีที่จอดรถในบริเวณใกล้เคียง ส่งผลให้มีปริมาณรถติดสะสมจำนวนมากในช่วงเทศกาลและช่วงระยะเวลาเร่งด่วน (08.00-09.00 น. และ 16.00-17.00 น.)
รูปภาพที่ 2 ลักษณะของของถนนที่ความกว้างของผิวถนนที่ค่อนข้างคับแคบ ไม่มีทางเท้า หรือไหล่ทาง
ที่มา : จากการสำรวจภาคสนามเดือนมกราคม พ.ศ.2560
2) เส้นทางมีสภาพไม่เหมาะกับการใช้งาน เส้นทางการเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวและสถานที่ต่าง ๆ ขาดความเชื่อมโยงถึงกัน และมักมีพื้นผิวจราจรขรุขระ ชำรุด
3) การขาดการจัดการระบบขนส่งสาธารณะ การบริการขนส่งสาธารณะในพื้นที่มี 2 ลักษณะ ได้แก่ การให้บริการเชื่อมต่อไปยังจังหวัดกาญจนบุรีและอำเภอสังขละบุรี มีลักษณะเป็นรถโดยสารประจำทางปรับอากาศ รถตู้ประจำทางปรับอากาศ รถโดยสารประจำทางธรรมดา และการให้บริการภายในพื้นที่บริเวณตลาด จะเป็นรถจักรยานยนต์รับจ้าง ระบบขนส่งสาธารณะดังกล่าว แม้เพิ่มความสะดวกให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก แต่ยังขาดการจัดระเบียบและมาตรฐานในการให้บริการ เช่น การกำหนดจุดจอดรถที่ชัดเจน เป็นต้น
3. การระบายน้ำและบำบัดน้ำเสีย
พื้นที่เทศบาลตำบลทองผาภูมิ ไม่มีระบบบำบัดน้ำเสียที่ได้มาตรฐาน น้ำฝนและน้ำเสียของชุมชนจึงไหลรวมกันลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ ได้แก่ แม่น้ำแควน้อย ปัญหาด้านการระบายน้ำและบำบัดน้ำเสียต่าง ๆ ในพื้นที่เทศบาลตำบลทองผาภูมิ สรุปได้ดังนี้
1) การขาดการบำรุงรักษารางและท่อระบายน้ำ ส่งผลให้รางและท่อระบายน้ำมีสิ่งกีดขวางและอุดตัน ทั้งเศษใบไม้ กิ่งไม้ ขยะมูลฝอย รวมทั้งยังก่อให้เกิดปัญหาแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย
2) การขาดการวางแผนจัดการระบบบำบัดน้ำเสีย ปัจจุบันเทศบาลตำบลทองผาภูมิยังไม่มีระบบบำบัดน้ำเสีย น้ำเสียจากอาคารประเภทต่าง ๆ จะถูกปล่อยลงในบริเวณพื้นที่ว่าง ทางระบายน้ำตามธรรมชาติ
3) การประสบปัญหาน้ำเน่าเสียและเสื่อมโทรม จากการปล่อยน้ำทิ้งของชุมชนลงสู่แหล่งน้ำโดยไม่ผ่านการบำบัดให้มีคุณภาพตามมาตรฐาน ส่งผลให้แหล่งน้ำโดยเฉพาะแม่น้ำแควน้อยบริเวณใกล้ชุมชนมีสภาพเน่าเสีย ส่งกลิ่นเหม็น
4. การจัดการขยะมูลฝอย
เทศบาลตำบลทองผาภูมิ มีการให้บริการรวบรวมและจัดเก็บขยะมูลฝอย แต่การบำบัดและกำจัดขยะมูลฝอยดำเนินการในลักษณะการเทกองที่ไม่ได้มาตรฐานในที่ดินเอกชน ส่งผลให้เกิดปริมาณขยะมูลฝอยตกค้างที่ก่อให้เกิดกลิ่นเหม็นและทัศนียภาพที่ไม่สวยงาม (รูปภาพที่ 3)
รูปภาพที่ 3 ปริมาณขยะมูลฝอยตกค้างที่ก่อให้เกิดกลิ่นเหม็นและทัศนียภาพที่ไม่สวยงาม
ที่มา : จากการสำรวจภาคสนามเดือนมกราคม พ.ศ.2560
ความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อการจัดการสิ่งแวดล้อม
1. ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับผู้ตอบแบบสอบถามและปัญหาสิ่งแวดล้อมในพื้นที่
กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศชาย (ร้อยละ 53) อยู่ในช่วงอายุ 31–40 ปี (ร้อยละ 27) ประกอบอาชีพธุรกิจส่วนตัวหรือค้าขาย (ร้อยละ 36) และมีระยะเวลาในการอยู่อาศัยในพื้นที่มาแล้ว 5-10 ปี (ร้อยละ 31) เมื่อพิจารณาประเด็นปัญหาสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่มีความคิดเห็นว่า ปัญหาที่สำคัญในระดับมาก 3 ลำดับแรก ได้แก่ การเพิ่มขึ้นของอาคาร ที่พักอาศัย ร้านอาหารหรือรีสอร์ทบริเวณริมแม่น้ำแควน้อย (ค่าเฉลี่ย 3.86) รองลงมา ได้แก่ การเพิ่มขึ้นของปริมาณขยะจากการขยายตัวของเมืองและการท่องเที่ยว (ค่าเฉลี่ย 3.71) และการขาดการจัดการขยะมูลฝอยที่ถูกหลักสุขาภิบาล (ค่าเฉลี่ย 3.69) ตามลำดับ
2. ความพึงพอใจของประชาชนที่มีต่อการจัดการสิ่งแวดล้อม
ประชาชนมีความพึงพอใจต่อการจัดการสิ่งแวดล้อมโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง (ค่าเฉลี่ย 3.14) อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่ประชาชนมีความพึงพอใจในระดับมากมีเพียงเรื่องเดียว ได้แก่ การส่งเสริมและพัฒนาพื้นที่ให้เป็นแหล่งพาณิชยกรรมและที่อยู่อาศัย (ค่าเฉลี่ย 3.53) และประเด็นที่ประชาชนมีความพึงพอใจระดับปานกลางต่ำที่สุด ได้แก่ การจัดเก็บ รวบรวม ขนส่งและกำจัดขยะมูลฝอย (ค่าเฉลี่ย 2.47) (ตารางที่ 1)
ตารางที่ 1 ความพึงพอใจของประชาชนที่มีต่อการจัดการสิ่งแวดล้อมเมือง
ประเด็นความพึงพอใจของประชาชนที่มีต่อการจัดการสิ่งแวดล้อมเมือง | ค่าเฉลี่ย (X) | S.D. |
การวางแผนการใช้ประโยชน์ที่ดินของเทศบาลหรือภาครัฐ | 3.41 | 0.89 |
การจัดภูมิทัศน์ที่สวยงามเป็นระเบียบ | 3.37 | 0.73 |
การควบคุมประเภทและขนาดของกิจกรรมการใช้ประโยชน์ที่ดินที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม | 3.42 | 0.87 |
การส่งเสริมและพัฒนาพื้นที่ให้เป็นแหล่งพาณิชยกรรมและที่อยู่อาศัย | 3.53 | 0.92 |
การกำหนดระยะถอยร่นอาคารและขนาดอาคารในพื้นที่ริมแม่น้ำแควน้อย | 3.33 | 1.06 |
การจัดการเส้นทางสัญจรและเข้าถึงในพื้นที่ | 3.11 | 1.03 |
การป้องกันอุบัติเหตุบนท้องถนน | 3.27 | 1.07 |
การบำบัดน้ำเสียและรักษาความสะอาดแหล่งน้ำ แม่น้ำ ลำคลอง | 2.97 | 1.13 |
การจัดระบบระบายน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ | 2.98 | 1.19 |
การป้องกันและแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ | 2.69 | 1.30 |
การจัดเก็บ รวบรวม ขนส่ง และกำจัดขยะมูลฝอย | 2.47 | 1.30 |
รวม | 3.14 | 1.04 |
ที่มา : จากการแจกแบบสอบถาม พ.ศ.2560
3. ความต้องการของประชาชนที่มีต่อการจัดการสิ่งแวดล้อม
ประชาชนมีความต้องการในการจัดการสิ่งแวดล้อมโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ระดับมาก (ค่าเฉลี่ย 3.64) โดยประเด็นที่ประชาชนมีความต้องการในระดับมากสูงที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ การนำกฎหมาย แผน นโยบายในการจัดการสิ่งแวดล้อมมาใช้อย่างจริงจัง (ค่าเฉลี่ย 4.01) การจัดหาสถานที่กำจัดขยะแบบฝังกลบอย่างถูกสุขลักษณะ (ค่าเฉลี่ย 3.99) และการจัดเก็บและรวบรวมขยะมูลฝอยที่มีประสิทธิภาพ (ค่าเฉลี่ย 3.99) ตามลำดับ (ตารางที่ 2)
ตารางที่ 2 ความต้องการของประชาชนที่มีต่อการจัดการสิ่งแวดล้อมเมือง
ประเด็นความต้องการของประชาชนที่มีต่อการจัดการสิ่งแวดล้อม | ค่าเฉลี่ย (X) | S.D. |
การพัฒนาพื้นที่เพื่อการพาณิชยกรรมและที่อยู่อาศัย | 3.54 | 1.06 |
การจัดทำทางเดินเท้าและทางจักรยานที่สวยงามและปลอดภัย | 3.50 | 0.92 |
การปรับปรุงหรือจัดทำพื้นที่สวนสาธารณะ แหล่งพักผ่อนหย่อนใจ | 3.51 | 1.01 |
การควบคุมประเภทและกิจกรรมการใช้ประโยชน์ที่ดินที่ก่อให้เกิดมลพิษ | 3.19 | 1.28 |
การจัดหาสาธารณูปโภค สาธารณูปการที่เหมาะสมและเพียงพอ | 3.25 | 1.13 |
การอนุรักษ์และสงวนรักษาพื้นที่ที่มีคุณค่าทางธรรมชาติ เช่น พื้นที่ป่าไม้ ฯลฯ | 3.46 | 1.19 |
การใช้มาตรการบริหารการจราจร เช่น การควบคุมที่จอดรถ การจัดการระบบการเดินรถ ฯลฯ | 3.67 | 0.82 |
การจัดหาและพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะที่มีประสิทธิภาพ | 3.48 | 0.88 |
การแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัด | 3.64 | 0.88 |
การพัฒนาเส้นทางการคมนาคมและขนส่งให้เกิดความเชื่อมโยงและทั่วถึง | 3.66 | 0.98 |
การจัดหาระบบบาบัดน้ำเสียภายในชุมชน | 3.74 | 0.92 |
การแก้ไขและป้องกันปัญหาสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ | 3.92 | 0.94 |
การจัดหาสถานที่กำจัดขยะแบบฝังกลบอย่างถูกสุขลักษณะ | 3.99 | 0.99 |
การจัดเก็บและรวบรวมขยะมูลฝอยที่มีประสิทธิภาพ | 3.99 | 0.94 |
การนำกฎหมาย แผน นโยบายในการจัดการสิ่งแวดล้อมมาใช้อย่างจริงจัง | 4.01 | 1.00 |
รวม | 3.64 | 1.00 |
ที่มา : จากการแจกแบบสอบถาม พ.ศ.2560
การตั้งถิ่นฐานของชุมชนในเทศบาลตำบลทองผาภูมิมีการกระจุกตัวหนาแน่นบริเวณถนนเทศบาลสายหลักต่อเนื่องไปจนถึงบริเวณริมแม่น้ำแควน้อย และทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3272 สอดคล้องกับลักษณะการตั้งถิ่นฐานตามแนวยาว (Linear Settlement) ที่อาคารและสิ่งก่อสร้างจะเรียงตัวเป็นแนวยาวตามแม่น้ำ ลำคลอง หรือถนน เพื่อความสะดวกในการเดินทางและการใช้ประโยชน์จากการแม่น้ำ ลำคลองในการอุปโภค บริโภค (ชุมพล สุรินทราบูลย์, 2552) โดยปัญหาสิ่งแวดล้อมเมืองในพื้นที่ มีทั้งในลักษณะของการร่อยหรอของทรัพยากรธรรมชาติ เช่น การลดลงและการเปลี่ยนแปลงพื้นที่สีเขียว และการเกิดขึ้นของปัญหามลพิษสิ่งแวดล้อม เช่น การประสบปัญหาน้ำเน่าเสียและเสื่อมโทรม การเกิดปัญหาขยะมูลฝอยตกค้าง เป็นต้น
ทั้งนี้ ประชาชนมีความพึงพอใจในการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดินและขยายตัวของเมืองที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะ การเพิ่มขึ้นของอาคาร ที่พักอาศัย ร้านอาหารหรือรีสอร์ทบริเวณริมแม่น้ำแควน้อย ในขณะที่ ความพึงพอใจในด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมมีเพียงเรื่องการส่งเสริมและพัฒนาพื้นที่ให้เป็นแหล่งพาณิชยกรรมและที่อยู่อาศัย จึงเป็นการสะท้อนให้เห็นว่า ประชาชนมีแนวโน้มของการสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาและขยายตัวของเมือง หากมีการควบคุมและดูแลผลกระทบที่จะเกิดขึ้นตามมาอย่างเหมาะสม ในด้านของการจัดการสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ จะเห็นได้ว่า ประชาชนให้ความสำคัญกับการจัดการขยะมูลฝอย โดยประชาชนมีความต้องการให้จัดหาสถานที่กำจัดขยะแบบฝังกลบอย่างถูกสุขลักษณะ และการจัดเก็บและรวบรวมขยะมูลฝอยที่มีประสิทธิภาพในระดับมาก นอกจากนั้น การนำกฎหมาย แผน นโยบายในการจัดการสิ่งแวดล้อมมาใช้อย่างจริงจังในการแก้ไขและป้องกันปัญหาสิ่งแวดล้อมเมือง ยังเป็นประเด็นที่ประชาชนให้ความสำคัญมาก
1. วางแนวทางการจัดการขยะมูลฝอยอย่างมีประสิทธิภาพ การดำเนินการวางแผนการจัดการขยะมูลฝอย ที่คำนึงถึงทั้งในเรื่องการลดปริมาณขยะมูลฝอยและความเป็นพิษของขยะมูลฝอย การหมุนเวียนและนำกลับมาใช้ใหม่ การรวบรวมและขนส่ง ตลอดจน การจัดหาสถานที่และการดำเนินการกำจัดขยะแบบฝังกลบอย่างถูกสุขลักษณะจะช่วยแก้ไขปัญหาขยะตกค้างและตอบสนองความต้องการของประชาชนได้ (Pichtel, 2014)
2. เร่งดำเนินการวางและจัดทำผังเมืองรวม แม้ความต้องการของประชาชนที่มีต่อการควบคุมประเภทและกิจกรรมการใช้ประโยชน์ที่ดินที่ก่อให้เกิดมลพิษจะอยู่ในระดับปานกลาง แต่การเร่งดำเนินการวางและจัดทำผังเมืองในพื้นที่ศึกษา จะนำมาซึ่งการตอบสนองความต้องการประชาชนในระดับมาก ทั้งในเรื่องการนำกฎหมายมาใช้อย่างจริงจัง การพัฒนาพื้นที่เพื่อการพาณิชยกรรมและที่อยู่อาศัย การจัดหาสาธารณูปโภค สาธารณูปการที่เหมาะสมและเพียงพอ ฯลฯ
3. ควบคุมกิจกรรมและลักษณะการใช้ประโยชน์ที่ดินบริเวณริมแม่น้ำอย่างเข้มงวด การนำกฎหมายมาใช้อย่างเข้มงวด เช่น กฎหมายควบคุมอาคาร ฯลฯ นอกจากจะเป็นการควบคุมการเพิ่มขึ้นของอาคาร ที่พักอาศัย ร้านอาหารหรือรีสอร์ทบริเวณริมแม่น้ำแควน้อยอย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ยังเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาน้ำเน่าเสียและปัญหามลพิษสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ ตามมา
4. พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้มีความพอเพียงและได้มาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงและดูแล รักษาสวนสาธารณะให้มีทัศนียภาพที่สวยงามและเหมาะสมแก่การใช้งาน การซ่อมแซมเส้นทางการจราจรให้ได้มาตรฐาน และการพัฒนาเส้นทางการเข้าถึงสถานที่ต่าง ๆ ให้มีความเชื่อมโยงและเป็นไปอย่างทั่วถึง การส่งเสริมการติดตั้งระบบบำบัดน้ำเสียติดกับที่ (Onsite Treatment) ฯลฯ (สำนักจัดการคุณภาพน้ำ, ม.ป.ป.) จะช่วยยกระดับความพึงพอใจในการจัดการสิ่งแวดล้อมเมืองในพื้นที่ ป้องกันการเกิดขึ้นของปัญหามลพิษสิ่งแวดล้อม และช่วยส่งเสริมให้เกิดคุณภาพชีวิตที่ดีแก่ประชาชนมากขึ้น
กิตติกรรมประกาศ
บทความนี้พัฒนาและปรับปรุงมาจากสารนิพนธ์เรื่อง “แนวทางการจัดการสิ่งแวดล้อม เทศบาลตำบลทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี” อันเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตรการผังเมืองบัณฑิต สาขาวิชาการผังเมือง คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการผังเมือง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปีการศึกษา 2559
เอกสารอ้างอิง
เจมส์ แอล เครตัน. 2545. คู่มือ การมีส่วนร่วมของประชาชนในการตัดสินใจของชุมชน. แปลโดย วันชัย วัฒนศัพท์. ขอนแก่น: โรงพิมพ์ศิริภัณฑ์ ออฟเซ็ท.
ชุมพล สุรินทราบูลย์. 2552. วิวัฒนาการการตั้งถิ่นฐานในประเทศไทย. เอกสารประกอบการสอนวิชา ผม.205. กรุงเทพมหานคร: ม.ป.ท.
ประคอง กรรณสูตร. 2542. สถิติเพื่อการวิจัยทางพฤติกรรมศาสตร์. กรุงเทพมหานคร: ด่านสุธาการพิมพ์.
สำนักงานเทศบาลตำบลทองผาภูมิ. 2560. แผนพัฒนาสามปี เทศบาลตำบลทองผาภูมิ พ.ศ.2558-2560. [ออนไลน์] แหล่งที่มา: http://www.tpm.go.th/phan%203%20years.pdf [5 มีนาคม 2560]
สำนักงานสถิติแห่งชาติ. 2560. ข้อมูลสถิติจากการสำมะโน/สำรวจ/รายงานสถิติจังหวัด/สำรวจพิเศษ. [ออนไลน์] แหล่งที่มา: http://kanchanaburi.old.nso.go.th/nso/project/search/index.jsp? province_id=21&fid=1 [12 กุมภาพันธ์ 2560]
สำนักจัดการคุณภาพน้ำ. ม.ป.ป. น้ำเสียชุมชนและระบบบำบัดน้ำเสีย. [ออนไลน์] แหล่งที่มา: http://www.pcd.go.th/info_serv/water_wt.html [24 ตุลาคม 2558]
Pichtel, J. 2014. Waste Management Practices: Municipal, Hazardous, and Industrial. 2nd ed. New York: Taylor and Francis Group.
สนับสนุนโดย